บทกลอนธรรม

... เหงา หงอย... ..
เมื่อเวลา ยามเย็น เห็นแสงลับ
คนก็กลับ จากงาน ผ่านเหนื่อยร้อน
วิหคกลับ คืนรัง หวังคู่นอน
หมู่ภมร ก็ลับลา จากหากิน ...
ต่างเห็นแสง แห่งยามเย็น เป็นความเศร้า
ดูเงียบเหงา เศร้าสร้อย เหมือนคอยฝัน
ใครหลายคน บนโลก โศกจาบัญ
เพราะสำคัญ แสงที่มัว สลัวตา ...
แสงมัวๆ สลัวนัก ทึกทักจิต
ให้คอยคิด ติดใจ อาลัยหา
ด้วยเคยเห็น หน้าพร้อมกัน ทุกวันนา
ทำชีวา ให้สดชื่น ระรื่นใจ ...
หากวันใด ไม่ครบหน้า พาเศร้าๆ
ดูหงอยเหงา ในทรวง แสนห่วงไซร้
นี่แหละหนา พาติดห่วง บ่วงอาลัย
 เพราะว่าใจ ไม่รู้ธรรม คอยนำทาง ...
หากรู้ธรรม นำทาง ต้องวางจิต
ควรเพ่งพิศ พิจารณา สิ่งมาขวาง
นำเหตุผล ไตร่ตรอง ต้องปล่อยวาง
ทำใจ่ว่าง จากยึดถือ คือหลักชัย ..
ความเหงานั้น เกิดจาก ความอยากได้
แต่ไม่ได้ เศร้ารันทด หมดสดใส
ดังจะให้ คนรัก ที่ปักใจ
มาผูกไว้ อย่าให้ ไปไหนเลย ...
แต่ความจริง มันไม่เป็น หรอกเช่นนั้น
เพราะว่ามัน ต้องเปลี่ยนแปร จริงแท้เหวย
แต่ใจนั้น ไม่ยักคิด ผิดคุ้นเคย
จิตก็เลย ได้แต่ทุกข์ ไร้สุขเอยฯ..
--------------------------------------
 ... รีบเพียร ...
.. จงตื่นเถิด ปลุกซ้ำ ทำความเพียร
จงเร่งเรียน ศึกษา ปัญญาซ้อง
จงเห็นกาย ตายได้ ใช่ขุมทอง
อย่าให้หมอง หมดค่า น่าเสียดาย
.. เอากายตน ขนไป ให้มีค่า
คือปัญญา เห็นธรรม นำทุกข์หาย
จงรีบเร่ง เอาไว้ ให้ก่อนตาย
เร่งขวนขวาย ใช่มาสอน ก่อนหมดบุญฯ...
-----------------------------------------
... ตื่น ๆ ... ..
เช้าแล้วหนอ ขอทำใจ ให้สดชื่น
ให้กายฟื้น คืนชีพ รีบลุกไซร้
ชีวิตนี้ มีค่า กว่าสิ่งใด
แต่ทำไม ทำเหมือนเป็น เช่นคนตาย
 .. ควรรีบลุก ทำกิจ สิทธิของตน
ให้ผ่านพ้น เสร็จๆไป อย่าให้สาย
อย่าอืดอาด ไปทั่ว เหมือนวัวควาย
รักสบาย จึงโดนผูก ถูกเคี่ยนตี
.. อย่าไปทำ นิสัย ใกล้เคียงหมู
ที่คอยอยู่ ในเล้า เฝ้าคอยซี้
เจ้าของมัน ขุนไว้ ให้อ้วนพี
 เพราะมันดี แต่กินแล้ว ไม่แคล้วนอนฯ.
 ---------------------------------------
 ... อุปาทาน ... ..
อุปาทาน นั้นน่ะหรือ คือยึดมั่น
รู้ไม่ทัน มันรวดเร็ว ดั่งเปลวแสง
ดูหน้าตา ล้วนบ่งบอก ออกแสดง
บ้างก็แฝง ซ่อนไว้ ภายในใจ
.. เปรียบดั่งคน ได้หมา มาซักตัว
จิตเมามัว ลุ่มหลง จะคงไว้
แต่ก็ดัน เอาหมา มาใส่ใจ
หากว่าใคร ทำหมาพ่อ ต่อกรกัน
 .. หมาก็อยู่ ส่วนหมา หาใช่จิต
ชอบไปคิด จิตเป็นหมา น่าขบชัน
ใครมาเห็น ต้องว่าให้ อะไรกัน?
ก็คนดัน เป็นหมา น่าอายจริง
.. ถ้าเราเอา หมาออก นอกดวงจิต
ไม่เห็นผิด รู้ทัน เอามันทิ้ง
พอเลิกยึด จิตจึงเห็น ตามเป็นจริง
ว่าทุกสิ่ง เป็นของมัน อย่างนั้นเองฯ...
------------------------------------
... ฤทธิ์เดช วิเศษคุณ ...
.. ฉันไม่มี ฤทธิ์เดช วิเศษหนา
ถ้อยวาจา ใช่ศักดิ์สิทธิ์ ดังคิดหนอ
แต่ฉันมี ดวงจิต ติดเพียงพอ
จึงไม่ขอ ใครๆ ให้ระอา
 .. ฉันก็มี เพียงหนึ่ง พอพึ่งได้
มิใช่ใคร รวยล้ำ อย่างค้ำฟ้า
ก็สิ่งที่ ฉันคิดถึง มาพึ่งพา
มหิทธา รัตนไคร ยิ่งใหญ่เอยฯ...
 ---------------------------------
 ... ชีวิต ธรรมชาติ ...
 ... ธรรมชาติ สอนไว้ ให้ได้ก้าว
ซ้ายขวาเรา ต้องสลับ ต้องสับเปลี่ยน
โลกมนุษย์ ว้าวุ้น ต้องหมุนเวียน
ดังล้อเกวียน หมุนตาม ล่ามของโค
... ชีวิตเรา จะจบลง ที่ตรงไหน
อาจตอบได้ นั่นคือตาย มลายโข
ใครพบทาง มีสติ นิโรโธ
พ้นสุขโข ดับสนิท ปิดเกิดตาย
.. ต้องขวนขวาย พยายาม ตามทางนี้
พระองค์ชี้ นำทาง ฟางสุดท้าย
จงตั้งใจ ดับสนิท จิตวางคลาย
ไม่เกิดตาย ค่าล้ำ คำท่านเอยฯ...
--------------------------------
..... มนุษย์ นั่นแหละ ...
 .. มนุษย์โลก หลากหลาย กายใจหนอ
แสดงพอ มองเห็น เช่นกังหัน
สลับวน หมุนเวียน เปลียนทุกวัน
 ล้นอนันต์ ชั่วดี มีปนไป
 .. ในบางคน ฉันเห็น เป็นดีหนา
พอไม่ช้า ลับหลัง ดังไฟไซร้
พูดหน้าอย่าง หลังอย่าง หางออกไซร้
นี่หนอใจ คนเรา น่าเศร้าเอย..
.. ฉันไม่โกรธ ไม่เครียด ไม่เกลียดท่าน
 ไม่ต้องการ จะบ่นแม้ แย่จริงเหวย
เพราะดวงจิต ชองฉัน มันเสบย
จึงไม่เคย คิดเครียดแค้น แม้นซักครา
 .. ท่านก็เป็น เช่นท่าน มานานแล้ว
แค่รู้แกลว หางออก บอกทิศา
หากรู้แล้ว ไม่ทิ้ง ยิ่งระอา
หมดคุณค่า ลูกตถาฯ น่าอายจริง.ฯ..
-----------------------------------
++ ความรู้ ++
 .. อันความรู้ รู้จิต คิดต่างหาก
ต้องกระชาก ให้ห่าง กลางใจนั้น
ถ้าหลุดออก จิตรู้ชัด ปัจจุบัน
มันจะหัน จะเห เวลาใด
.. ถ้าไม่รู้ รู้กับคิด บิดมิดมืด
ดูไม่จืด มันผสม กลมกลืนไซร้
ก็มันแค่ เสี้ยวกลาง ระหว่างใจ
ของๆใคร ใจใคร ก็ใจมัน
.. หัดไปเถิด ปฏิบัติ ให้ชัดแจ้ง
จะไม่แคลง สิ้นสงสัย ในใจนั้น
แต่ไม่ทำ นี่ซิ ที่สำคัญ
แล้วก็ดัน มาบอกให้ ไม่ใช่ทาง
.. มัวขัดแย้ง กันไปเถิด ไม่เกิดผล
 เพราะไม่ยล ตามความจริง สิ่งที่กว้าง
ก็เอาบอด ตาดำ มาคลำช้าง
 แล้วก็อ้าง ไม่เห็นเหมือน เพื่อนซักราย
.. ก็เอาดี มาตีรัน มาฟันแทง
ใครขัดแย้ง ไม่ได้ ให้ฉิบหาย
ไม่ยักรู้ สิ่งเหล่านั้น อันตราย
มีอบาย หวังได้ ให้ไปดู
.. ลดมานะ ละชั่ว และกลัวบาป
 จะพึงทราบ ตามจริง สิ่งควรรู้
 สิ้นสงสัย หายซาก จากมึงกู
 จึงควรคู่ ได้พานพบ จบนิพพาน ฯ...
-----------------------------------
 ... ทุกข์ ! อีกแล้ว ..
ทุกข์ๆๆ จริงๆ ยิ่งกว่าฝัน
มันผจัญ เรียงหน้า ถาโถมใส่
กระบานฉัน ดั่งไฟสุม ด้วยกลุ้มใจ
ทำไฉน จึงจะมี ที่พี่งพิง
.. ก็พระธรรม สอนอยู่ ให้รู้ทุกข์
ที่มันจุก แน่นอกใจ ใยไม่ทิ้ง
เรียนรู้ทุกข์ ทุกแง่ อย่างแท้จริง
จึงจะทิ้ง มันลง ปลงอนิจจา
.. ให้ดำรงค์ อยู่ในศีล ถิ่นสงบ
ใจจะพบ ความสุข ทุกแห่งหนา
ทำทุกสิ่ง สติดี มีปัญญา
นี่แหละหนา เครื่องพึ่งพิง อิงนิพพาน..
 ---------------------------------
--- ความคิด ---
 .. อันความคิด ถ้าคิดผิด จิตกระส่าย
จิตวุ่นวาย สับสน เอาจนหลง
คิดไปเรื่อย คิดไป ไม่มีปลง
คิดไม่ลง มีแต่ทุกข์ สุขมลาย..
.. อันความคิด ถ้าคิดเป็น เห็นประเสริฐ
เห็นของเลิศ เกิดกำไร ดังใจหมาย
เห็นพระธรรม ดำรงค์ คงใจกาย
เลิกวุ่นวาย เลิกภพ จบนิพพาน...
 ------------------------------------
 ---- ก็แค่สัญญาณ ---
...สัญญาณเน็ต ต่อไม่ติด คิดกรุ่นๆ
นั่งคอยลุ้น ข้อความ ตามปราถนา
ใจมันคิด ให้แสดง แรงเต็มตา
 มันก็ช้า เหลือทน จนเจ็บใจ
..เอ๊ะ! นี่เรา เป็นอะไร ไปหรือนี่
ของไม่มี ตัวตน คนที่่ไหน?
ก็อากาศ แปรปรวน ผวนแปรไป
 แล้วทำไม ใยต้องเศร้า โง่เง่าจริง....
------------------------------------
... โง่เพราะอะไร??...
สูงสุดสูง เสียดฟ้า ต้องลาโลก
โศกสุดโศก เศร้านัก เพราะรักหนอ
เมื่อไรเล่า ใจเน่าๆ จะเศร้าพอ
รอแล้วรอ คอยไป อย่างไร้ธรรม...
------------------------------------
ทุกวันนี้สื่อนั้นเป็นเช่นชีวิต
ให้คอยติดตามไปได้เสมอ
แต่ค้นหาที่มากยากจะเจอ
ที่เสนอทางหลุดพ้นจนนิพพาน
-----------------------------------
การทำทานคือการให้ในสิ่งของ
หรือเงินทองแล้วแต่ได้แค่ไหน
หากมีมากทำมากยากอะไร
ที่ทำไปสิ่งเหล่านั้นนั่นของตัว
ขอจงทำด้วยจิตคิดทุกครั้ง
อย่าพลาดพลั้งใครสะกิดคิดปวดหัว
บ้างก็หรอกบอกไปให้หมดตัว
อย่าเมามัวหลงหน้าใหญ่เที่ยวใจโต
ทำทุกครั้งจงตั้งจิตพิจารณา
ด้วยปัญญาเถิดนะจะสุขโข
ทำอย่างสมฐานะละอวดโต
หากหวังโก้ทำแล้วไม่แคล้วเปรต
เอ๊ะ! ทำไม จึงเป็น ดังเช่นนั้น
เพราะว่ามันทำด้วยจิต คิดทุเรศ
ทำด้วยความอยากได้ใจเป็นเหตุ
น่าสมเพท หวังคนชม ไม่นมนาน
การทำทานด้วยปัญญาว่าไฉน
ทำด้วยใจละขาดไม่อาจสาน
ละกิเลสที่ชื่อว่าอุปาทาน
เพื่อนิพพานอานาคตหมดเกิดตาย..
-------------------------------------
 อันว่าคนทุกประเทศทุกเขตแดน
ทั่วทุกแคว้นใดๆในโลกหล้า
ต้องได้รับทุกข์ทนล้นกายา
มีถ้วนหน้าทุกชีวาไม่ว่าใคร
จะหวังเอาความร่ำรวยมาช่วยเหลือ
แต่ไม่เอื้อเฟื้อกันขั้นใจไม้
อยู่ใกล้กันเหมือนถูกถ่างจนห่างไกล
ยามเมื่อภัยมาถึงอดพึ่งกัน
ทุกข์ไม่ใช่มีมาว่าด้วยทรัพย์
ทุกข์มันสับขาหลอกดอกจอมขวัญ
ถึงมีทรัพย์ไร้ปัญญาน่าจาบัญ
กิเลสั้นมันสำคัญดันทุกข์เอย
ทุกข์ๆๆ กลุ้มจิต คิดไม่ถูก
ทุกข์เพราะลูก เพราะผัว มั่วจริงเหวย
ทุกข์ไม่ได้ ดั่งใจ ไม่เสบย
เหมือนไม่เคย มีสุขทุกข์จริงๆ
โถเอ๋ย!น่า สงสารกระบานหนอ
เอาแต่ก่อไฟสุมให้กลุ้มสิง
ไม่เอาธรรมมานาบมาอาบอิง
มาพึ่งพิงเสียบ้างทางสบาย
ก็ธรรมะนั้นละวางกระจ่างแจัง
ออกสำแดงแผลงฤทธิ์ไม่ผิดสาย
ใครทำถูกรับรองได้ใจสบาย
ทำแล้วคลายทุกข์โศรกโลกเบิกบาน
มีธรรมะ ภูมิคุ้มกัน กระสันหา
เหตุนำพา จิตกับกายกระส่ายสาน
แล้วสละละไปด้วยให้ทาน
เริ่มเจือจานนานไปได้ชุมชน
มีมิตรดีเริ่มเข้ามาได้หาสู่
นำความรู้คู่ธรรมนำสุขล้น
เริ่มเห็นค่า ความหมายในกายตน
เลิกร้อนลน ตามกิเลส เหตุเพทภัย
เมื่อฝึกฝนจนเห็นเป็นนิสัย
ไม่มีใครจะกล้ามาหลอกได้
ไม่เวียนทุกข์เวียนโศกบนโลกภัย
เพราะว่าใจมันถึงซึงนิพพาน...
 -------------------------------
 คุณของแม่แท้จริงยิงใหญ่ล้ำ
ใหญ่กว่าคำควรค่าในหล้าโลก
แม้นแผ่นดินแผ่นฟ้านำมาโบก
ไม่พอโหนกหนอใจในแม่เอย
บ้านของลูกหลังแรกแทรกกายแม่
เจ็บท้องแท้เท่าไรมิได้เอ๋ย
หวังลูกน้อยออกมาดูน่าเชย
จึงละเลยความปวดเจ็บที่เหน็บกาย
เมื่อคราลูกอยู่ในท้องต้องดูแล
ท้องก็แพ้ทนอาเจียนเวียนขวาซ้าย
ลูกได้กินได้นอนทั้งตอนถ่าย
 อยู่ในกายของแม่อย่างแท้จริง
ยามลูกคลอดตลอดตัวทั่วกายแม่
มันสุดแย่ทรมานปานทุกสิ่ง
เหมือนชีวิตมีค่าต้องมาทิ้ง
แม่นอนกลิ้งเจ็บสุดแย่แม่ต้องทน
เมื่อลูกคลอดออกมาชีวาชื่น
ดังชีพคืนกลับมามากค่าล้น
ที่เจ็บกายหายลับกลับสุขปน
แม่ได้ยลหน้าลูกรักปักดวงใจ
โอ้ลูกเอ๋ยเคยอยู่ในอู่แม่
ไม่เคยแม้จะเห็นหน้าว่าเป็นไง
วันนี้พบลูกแล้วแก้วตาไซร้
ชื่นหัวใจแม่หนอที่รอคอย
ผ่านเจ็บกายยังไม่ลดหรือหดหาย
แม่ก็กลายเป็นทาสไว้ให้ใช้สอย
ให้กินดื่มหรือสุดแท้แม่ก็พลอย
ทำให้กลอยใจแม่แค่ตัวตาย
ลูกเติบโตทำสิงไหนสอนให้รู้
แม่เป็นครูคนแรกสอนก่อนทั้งหลาย
รู้เลี้ยงชีพให้เป็นสุขก่อนทุกราย
ต่อเมื่อสายจึงได้ครูผู้ต่อไป
พอรู้ความแม่ก็เป็นดังเช่นเพื่อน
ทั้งคอยเตือนคอยเล่นเป็นห่วงไซร้
คอยคลายเหงาคลายเศร้าเฝ้ากลอยใจ
ลิ้นไม่ไต่ไรไม่ตอมถนอมมา
เมื่อยามเรียนศึกษาหาทุนให้
ถึงจะไม่มีกินต้องดิ้นหา
กี่ปีผ่านระบบตรมกายา
เมื่อลูกมาแบมือคือขอเงิน
เอทีเอ็มดีที่สุดสุดวิเศษ
คือฤทธิ์เดชกระเป๋าแม่ให้แก้เขิน
วงเงินมีไว้ใช้ไม่กลัวเกิน
ใช้จนเพลินก็ไม่ตัดไมขัดใจ
ลูกหลายคนแม่ส่งได้ไม่ขัดสน
แต่แม่คนเดียวนี้มีบ้างไหม
ที่จะรู้ตอบแทนแสนเยื่อใย
ลูกของใครใครก็เฝ้ารอคอย
มาคิดถึงพระคุณการุณเกื้อ
ให้เลือดเนื้อให้ชีวิตคิดซักน้อย
ให้ความรู้ความหวังตั้งใจคอย
หวังลูกกลอยเป็นคนดีศรีสังคม
ถ้าลูกดีมีค่าหน้าตาชื่น
ไม่ขมขื่นลูกของสูดูเหมาะสม
ถ้าลูกเลวเหวนรกตกอกตรม
แม่ระบมน้ำตาให้หน้านอง
รักษาศีลอยู่ในธรรมดำรงค์จิต
ตรวจความคิดอย่าทำไปในสิ่งหมอง
 ทำทุกครั้งมีสติริไตร่ตรอง
ให้ชื่อซ้องถึงแม่แค่นั้นพอ
กาลล่วงเลยผ่านไวอาลัยนัก
ดังไม้หลักจะคลอนถอนสมอ
ถึงอยากอยู่กับลูกนั้นให้นานพอ
แต่กาลก็ไม่เป็นเช่นดังใจ
ลูกเอ๋ยลูกอยู่ด้วยกันมันต้องจาก
ต้องพลัดพรากเป็นดั่งเทียนเจียนหมดใส้
เมื่ีอถึงวันต้องลาแม่อาลัย
จำต้องไปลาลับไม่กลับมา
หากวันนี้แม่ยังด่าว่าลูกได้
ควรทำใจคิดหวังยังวันหน้า
อย่าเคาะโลงให้แม่ฟื้นตื่นขึ้นมา
ให้ด่าว่าซักเท่าไรก็ไม่ทำ
---------------------------
อาตมา มาอยู แต่ผู้เดียว
หวังเด็ดเดี่ยว ซึ่งธรรม นำกุศล
มิได้ทำอวดใครให้มายล
หรือไปปล้นศรัทธามาหาตัว
อันศรัทธาของผผู้ใดใครต้องก่อ
อย่าไปรอพึ่งคนอื่นมันฝืนหัว
มีปัญหารู้ชัดขจัดมัว
รู้ให้ทั่วถึงธรรมนำสุขใจ
มีศรัทธาให้ถึงซึ่งรัตนะ
อาตมะไม่อยู่คู่โลกไซร้
ไตรรัตนะจะอยู่คู่โลกไป
ศรัทธาให้ถูกต้องไม่หมองมัว
อันมนุษย์อายุสั้นนั้นเที่ยงแท้
คงเหลือแต่ พุทธ ธรรม สงฆ์ คงเหนือหัว
จงรักษาสมบัติไว้ไปกับตัว
ใช้ได้ทั่วถึงนิพพานสำราญใจ
อาตมายังเป็นคนปนผิดบ้าง
อย่าไปอ้างลดศรัทธาถ้าผิดไซร้
จะผิดถูกเป็นข่าวลือระบือไกล
ให้คงไว้ศรัทธารักษาธรรม
หากข่าวผิดโยมจะถูกซึ่งลูกศร
มารมาย้อนทิ่มแทงแสลงซ้ำ
หากข่าวถูกโยมจะถูกผูกระกำ
ไม่คิดทำความดีนี่ขาดทุน
แสดงว่าเสียสองฝั่งทั้งขึ้นล่อง
เพราะบกพร่องในธรรมนำเกื้อหนุน
จงมีธรรมนำใจให้การุณ
ให้มีบุญหนุนส่งตรงนิพพาน...
 -------------------------------
@@... สงบ ...@@
 ..ฉันอยู่เพียง คนเดียว ไม่เปลี่ยวใจ
ไม่มีใคร มายุ่ง ให้ยุ่งหยิง
ยิ่งคนมาก มากเรื่อง เครื่องบันเทิง
ให้ระเริง หลงอยู่ ในหมู่ชน .
.ใจฉันว่า เงียบสงบ พบความสุข
ละสนุก ไม่อึดอัด ไม่ขัดสน
บวชเป็นพระ ควรเป็น เช่นคนจน
โดยไม่ปน ด้วยความโลภ โอบกอดใจ
 ..ละชีวิต ที่เคยหา ค่านิยม
หวังสุขสม แต่ไม่รู้ อยู่ที่ไหน
ได้เพียงแต่ ค้นหา ว่ากันไป
หลงไปไกล ไม่เคยเห็น ว่าเป็นจริง
 ..พอหยุดหา หยุดวิ่ง มานิ่งเฉย
ฉันก็เลย รู้ความจริง สิ่งที่ทิ้ง
เป็นสิ่งที่ ถูกแท้ แน่เสียจริง
 ฉันจึงนิ่ง หยุดได้ ไม่อาวร
..แต่สิ่งที่ ควรไป ให้ถึงฝั่ง
มุ่งไปยัง ฝั่งนิพพาน ต้องผ่านร้อน
 เพราะว่ามาร คอยบิดเบือน เหมือนละคร
จะให้จร จากทาง ห่างนิพพาน .
.อยู่คนเดียว ต้องรู้หา ปัญญาช่วย
เพื่ออำนวย รู้หลัก ให้ปักฐาน
เอาใช้ปราบ กิเลส เหตุร้าวราน
ใช้เผาผลาญ จนจบผ่าน นิพพานเอยฯ.
. -----------------------------------------
 ----- หลักการของวัดนี้ -----
 ..อันวัดดี ที่่สบาย มีหลายหลาก....
 หาไม่ยาก หลากอำนวย กันสวยหรู...
 แต่ที่นี่ มีสงบ นบคุณครู...
 จะเชิดชู สภาพเรียบ เงียบสบาย...
.. ..วัดสวยๆ รวยหนัก นักท่องเที่ยว...
 ดูไม่เปลี่ยว ตระการตา น่าเฉิดฉาย...
 แต่ที่นี่ ไม่ครบเครื่อง เรื่องปูนทราย...
 หวังขวนขวาย เที่ยวอยู่ใน ดวงใจตน...
-----------------------------------------
 @@... พระพุทธบาท ...@@
 ..ขอบูชา รอยเท้า เท่าเศียรเกล้า
เปรียบได้เฝ้า ศาสดา ท่านมาผิน
ขอยกธรรม ไว้สูงสุด ดุจได้ยิน
จากปลายลิ้น พระองอาจ ศาสดา
 ..จะบูชา รอยเท้านี้ ที่ได้เห็น
ให้ร่มเย็น สู่ภายใน ใจเราหนา
จะประพฤติ ธรรมนี้ ชั่วชีวา
ดุจรักษา ไข่ในหิน สิ้นวันตาย...
------------------------------------
##*** ประกาศ จากที่พักสงฆ์(2) ***##
..ประกาศจาก ทางวัด ถึงศรัทธา
 ผู้ที่มา ทำบุญ หนุนกุศล
ขอจงตรวจ เครื่องแต่งกาย ที่กายตน
ว่านุ่งพ้น หัวเข่า หรือเปล่านา..
..หากใจกว้าง คออย่ากว้าง นางนารี
กลัวจะมี อะไร ในสายตา
ถ้านุ่งดี เรียบร้อย จะคอยท่า
หากเผลออ้า พลั้งนิด สะกิดเตือน..
..พระหนุ่มๆ เณรน้อยๆ คอยศึกษา
ซึ่งธรรมา ทำไป ไม่เห็นเหมือน
อย่างครูบา อาจารย์ ท่านคอยเตือน
เพราะสะเทือน ถึงใจ บรรลัยเอยฯ...
---------------------------------------
 ##*** ประกาศ จากที่พักสงฆ์ ***##
..ผู้ที่มา หาหวย หวังรวยเบอร์
คงไม่เจอ ในที่ นี้หรอกหนา
หรือจะหวัง ดูหมอ ต่อชะตา
คงชาติหน้า ถ้าหากหวัง ตั้งตาคอย .
.เพราะไม่รู้ จริงๆ สิ่งเหล่านั้น
ใช่แกล้งกัน ท่าที ให้หนีถอย
ถ้าทุกคน มั่งมี ดีไม่น้อย
เราจะพลอย ชื่นชม นิยมตาม .
.ถ้าหากหวัง ธรรมะ ละกิเลส
สิ่งอาเภท ในใจ ให้มาถาม
เราจะบอก ไม่มีปด หมดทุกความ
สิ่งใดทราม สิ่งใดดี มีคุณเอย...
--------------------------------------
 @@... พระพุทธบาท ...@@
 ..พระพุทธบาท คือรอยเท้า เงาศาสดา
 เป็นพุทธา นุภาพ ตราบวันนี้
บางยุคล้าง บางยุคเฟื่อง รุ่งเรืองดี
บางยุคมี เสื่อมถอย น้อยราคา
.เป็นความจริง อนิจจัง ดังท่านกล่าว
ผ่านร้อนหนาว หลายสมัย ใครบ้างหนา
เห็นนิยาม ตามจริง ทุกสิ่งนา
ย่อมร้างลา เกิดดับ สลับกัน...
--------------------------------------
@@...ตรวจคำสอน...@@
................................
...สอนผู้อื่น ให้ฟังท่าน นั้นสอนง่าย
แต่สอนกาย ใจตน พ้นวิสัย
มัวเห็นแต่ ประโยชน์ท่าน นั้นยาวไกล
ประโยชน์ใน ตนเอง เกรงอีกนาน
...มาลดละ มานะจิต ควรคิดถึง
ตนเองซึ่ง ยังติดข่าย ในสงสาร
เร่งเรียนรู้ สู้ภัย ในสันดาน
อีกมินาน คงพ้นทุกข์ สุขนิรันดร์...
-----------------------------------
จิตเอ๋ยจิต ชอบคิด เรื่องวุ่นๆ
คอยแต่จุ่น แต่จ้าน งานทั้งหลาย
มันชอบคิด จริงๆ สิ่งวุ่นวาย
คิดจนตาย จะจบไหม? ใจเจ้าเอย...
------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น