หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

พิธีศพ หลวงพ่อเสนาะ วัดบางคาง


















พระครูสุนทรธรรมประยุต หรือหลวงพ่อเสนาะ 
เจ้าอาวาสวัดบางคาง ตำบลรอบเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี
ประวัติ
พระครูสุนทรธรรมประยุต หรือหลวงพ่อเสนาะ เกิดในวันพฤหัสบดี เดือน ๗ ปีมะแม พ.ศ.๒๔๖๒ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 5 มิ.ย.2462
ท่านเกิดที่บ้านมอญ หมู่ ๕ ตำบลกระแจะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี (ปัจจุบันคือตำบลรอบเมือง) 
 ในช่วงวัยเยาว์ เข้าศึกษาหาความรู้ที่โรงเรียนวัดบางคาง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่ออายุได้ 13 ปี
ครั้นอายุ 21 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทที่วัดบางคาง ในวันพุธที่ 17 เม.ย.2483 มีพระครูด้วง เกสโร วัดหลวงปรีชากูล เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ปัญญาวโร แปลว่า ผู้มีปัญญาอันประเสริฐ
เมื่อบวชแล้วหนึ่งพรรษาผ่านไปได้ติดตามพระอาจารย์เชย วัดสันติ ออกเดินธุดงค์จากวัดบางคางมุ่งหน้าไปนมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเส้นทางในสมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฏ เต็มไปด้วยอันตรายและความยากลำบาก แต่ท่านก็ผ่านมาได้ด้วยดี

 เมื่อกลับมาวัดแล้วได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ คือ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484-2486
ในปี พ.ศ.2486 ได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ตั้งแต่นักธรรมชั้นตรี โท เอก เรื่อยมาจนถึงปี 2514
 หลวงพ่อเสนาะท่านเคยไปปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา พระเกจิอาจารย์ ชื่อดังยุคสงครามอินโดจีน และเคยไปกราบสนทนาธรรมกับหลวงพ่อผิว วัดสง่างาม พระเกจิชื่อดังยุคนั้น โดยท่านบอกว่าไปกราบด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งหลวงพ่อทุกองค์บอกกับท่านว่า "ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่จิต ที่กาย และวาจา ถ้าจิตดี กายบริสุทธิ์ วาจาสัจจะ ทำอะไรตั้งจิตมุ่งไปให้ถึง ทุกอย่างก็สำเร็จ สมประสงค์ทุกประการ"
ด้านวิทยาคม ด้วยเหตุที่ท่านเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ มีความจำเป็นเลิศ เป็นผู้สังเกตการณ์ จึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้ต่างๆ จากครูบาอาจารย์ ในลักษณะครูพักลักจำ ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ รวมทั้งการเขียนอักขระเลขยันต์ ท่านได้ศึกษาจากคัมภีร์ใบข่อยเป็นตำราโบราณจนสามารถอ่านออกเขียนได้ และนำมาปฏิบัติฝึกฝนจนมีพลังจิตแก่กล้า

ในปี 2490 เจ้าอาวาสวัดบางคางองค์เดิมได้ลาออกเพื่อกลับภูมิลำเนาที่ประเทศกัมพูชา ท่านจึงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าอาวาส แม้ท่านจะปฏิเสธไม่รับตำแหน่ง แต่ด้วยความเป็นผู้ที่มีพรรษามากกว่าพระภิกษุสงฆ์รูปอื่น จึงต้องยอมรับด้วยประการทั้งปวง โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางคางตั้งแต่ปี 2490 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ในปี 2513
ในทางด้านการปกครอง ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบล และเลื่อนเป็นเจ้าคณะอำเภอ จนกระทั่งถึงวัยเกษียณอายุ จึงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ

ในด้านการเผยแผ่ธรรม หลวงพ่อเสนาะเป็นพระที่ทันสมัย ใช้ธรรมะสั่งสอนชาวบ้าน ให้รู้จักทำมาหากินด้วยความสุจริต มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร มิให้ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข ใช้ชีวิตอย่างสมถะ และพอเพียง
หลวงพ่อเสนาะ ยังสั่งสอนให้ชาวบ้านได้เจริญภาวนาสมาธิ ให้ยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามศีล 5 ศีล 8 หรืออุโบสถศีล อย่างเคร่งครัด ให้เป็นคนคิดดี ทำดี พูดดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน ถือเป็นผู้นำทางคุณธรรมศีลธรรมของชาวบ้านอย่างแท้จริง
เกียรติคุณของหลวงพ่อเสนาะ จึงเป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส เป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม


วัดบางคางคำว่า บางคาง นั้น เป็นคำในภาษาจีนแต้จิ๋ว ออกเสียงเรียกเมืองปราจีน ว่า มั่งคั้งเวลาออกเสียงทับศัพท์กับภาษาไทยกลายเป็นคำว่า บางคางไปในที่สุด
ความสำคัญของวัดบางคาง เคยเป็นที่ตั้งค่ายพักแรมกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และปัจจุบันมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ หน่วยงานราชการในจังหวัดปราจีนบุรี จะประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นประจำ ในวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ณ วัดบางคาง แห่งนี้

วัดบางคาง ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลรอบเมือง ตำบลรอบเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี มีอายุประมาณ 140 ปี เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายต่อกับสมัยธนบุรี คือ
   สืบเนื่องมาจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งขณะนั้นดำรงยศเป็น พระยาวชิรปราการ ได้ออกจากกรุงศรีอยุธยามาทางทิศตะวันออก ถึงบ้านพรานนก จึงให้บรรดาทหารไปจัดหาเสบียงมาไว้ในกองทัพ ได้พบกับทหารพม่าที่รักษาเมืองปราจีนยกพลสวนทางมาจากบางคาง ได้เกิดปะทะกันขึ้น จากนั้นจึงยกพลไปทางนาเริ่งและเมืองนครนายก ผ่านด่านบ้านกบแจะต่อมาคือเมืองปจันตคาม ข้ามลำน้ำเมืองปราจีนบุรีไปตั้งพักอยู่ทางชายดงศรีมหาโพธิ ฟากตะวันออก นอกจากนี้ บ้านบางคาง แขวงเมืองปราจีนดังกล่าว มีข้อสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองปราจีนแต่เดิม เหตุเพราะมีการสำรวจพบซากเมือง วัตถุโบราณและร่องรอยอื่นๆ อยู่บริเวณใกล้ๆ วัดบางคาง แม้ว่าร่องรอยต่างๆ จะถูกทำลายลงไปบ้าง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้มีการย้ายเมืองมาตั้งใหม่อยู่บริเวณกองกำกับการตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรีในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ห่างจากแม่น้ำปราจีน ประมาณ 200 เมตร และยังคงเห็นร่องรอยของซากกำแพงเมืองหลงเหลืออยู่
ภายในบริเวณวัดมี ถาวรวัตถุอยู่มาก เป็นที่ทรงคุณค่าทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ หรือ พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ วิหาร พระพุทธรูปปางลีลาวัดบางคาง   พร้อมพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและขวา  พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช  
หอระฆังแปดเหลี่ยม   ซึ่งเป็นหอระฆังรูปทรงแปลก ล้อมรอบด้วยเสาหงส์รอบด้าน บนหอระฆังแขวนระฆังไว้หลายใบ บันไดทางขึ้นสร้างเอาไว้ในชั้นล่างมองจากด้านนอกไม่เห็น ยอดของหอระฆังก็สร้างได้อย่างสวยงาม


พระครูสุนทรธรรมประยุติ (หลวงพ่อเสนาะ) เป็นพระเถระที่มีอาวุโสสูงอีกรูปหนึ่งของเมืองปราจีนบุรี  มีความเมตตา มีศีลาจารวัตร ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ดำรงตนอย่างสมถะเรียบง่าย เรื่องทำวัตรเช้า-เย็น ท่านกระทำเป็นประจำมิได้ขาด
ทุกวันพระ จะขึ้นศาลาการเปรียญเทศนาโปรดญาติโยมที่มาทำบุญ ซึ่งการเทศน์ของท่านนั้นไพเราะเสนาะหู สร้างความประทับใจและความศรัทธาให้แก่ผู้ได้ยินได้ฟังอย่างยิ่ง
บัดนี้ แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ความสมถะเรียบง่าย มักน้อย สันโดษ มีความเป็นอยู่แบบพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ยังคงอยู่ในศรัทธาของสาธุชนและศิษยานุศิษย์อย่างมิรู้เสื่อมคลาย

หลวงพ่อเสนาะ ปัญญาวโร ได้มรณภาพด้วยโรคชราและโรคมะเร็ง  โดยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลพญาไท 2 กรุงเทพฯ สิริอายุได้ 97 ปี  พรรษา 76 เมื่อเวลา 05.20 น.วันที่ 6 ก.พ. 2558 โดยมีการเคลื่อนย้ายศพจากกรุงเทพฯ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา ในวันที่ 7 ก.พ. 2558 จากนั้น ประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ  พร้อมให้ศิษยานุศิษย์ ประชาชนเข้ารดน้ำศพ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป  โดยพลโท ประสงค์ ฟักสังข์ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธี และมีพิธีบำเพ็ญกุศลจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 กพ. 2558 จนถึงวันจันทร์ที่ 16 ก.พ.2558 เวลา 19.30 น. แสดงพระธรรมเทศนา และ เวลา 20.00 น. สวดพระอภิธรรม


 วันอังคารที่ 17 ก.พ.2558 ประกอบพิธีบรรจุศพเก็บไว้เป็นเวลา 1 ปี เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิง ในวันอาทิตย์ที่ 31 ม.ค. 2559 เวลา 16.30 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น