หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

มรรคมีองค์ ๘

 มรรค  หมายถึง หนทาง  ซึ่งมีทั้งทางถูกกับทางผิด     ถ้าเป็นหนทางที่ถูกต้องเป็น
ไปเพื่อการอบรมเจริญปัญญา    ถ้าเป็นกล่าวมรรค อันประกอบด้วยองค์ ๘ แล้ว  ย่อม
เป็นหนทางถูก  เป็นหนทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง  เป็นไปเพื่อกำจัดกิเลส 
เป็นหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์ หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย
     อริยมรรค หนทางของผู้ไกลจากกิเลส , หนทางอย่างประเสริฐ  หมายถึง  มรรค
มีองค์  ๘    อันเป็นหนทางอย่างประเสริฐ        เพราะทำให้ผู้อบรมบรรลุถึงความเป็น
พระอริยเจ้า  พ้นจากความเป็นปุถุชน     และพ้นจากการเกิดในอบายภูมิโดยเด็ดขาด
ซึ่ง ประกอบด้วย อริยมรรค 8 ประการดังนี้ ครับ
     สัมมาทิฏฐิ  ความเห็นถูก , ความเห็นชอบ  ได้แก่   ปัญญาเจตสิก  ซึ่งมีลักษณะ
ที่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง สัมมาทิฎฐิมีหลายระดับ ตั้งแต่กัมมสกตาสัมมาทิฏฐิ
( ความเห็นถูกเรื่องความมีกรรมเป็นของๆ ตน )      ฌานสัมมาทิฏฐิ   ( ความเห็นถูก
ที่เกิดกับฌานจิต )  วิปัสสนาสัมมาทิฏฐิ  ( ความเห็นถูกที่เกิดกับวิปัสสนา    ซึ่งขณะ
ที่เป็นสติปัฏฐานก็เป็นมรรคมีองค์  ๕      แต่ขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้นประหาณกิเลสเป็น
สมุจเฉทก็เป็นมรรคมีองค์  ๘   เป็นต้น 
     สัมมาสังกัปปะ    ความดำริชอบ  หมายถึง   วิตกเจตสิกที่ตรึกที่ลักษณะของ
นามธรรมหรือรูปธรรมที่กำลังปรากฏ     เพื่อสติจะได้ระลึก     ปัญญาจะได้ศึกษา
ในลักษณะของนามรูป  สัมมาสังกัปปะมีอาการ   ๓   อย่าง  คือ ...
๑. ดำริในการออกจากกาม
๒. ดำริในการไม่พยาบาท
๓. ดำริในการไม่เบียดเบียน 
     สัมมาวาจา คำพูดชอบ หมายถึง  วิรตีเจตสิกดวงหนึ่งที่ทำกิจให้เกิดการงดเว้น
จากวจีทุจริต  ๔  อย่าง  คือ    
๑. งดเว้นจากการพูดปด   
๒. งดเว้นจากการพูดส่อเสียด
๓. งดเว้นจากการพูดคำหยาบ
๔. งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ 
     สัมมากัมมันตะ การงานชอบ หมายถึง  วิรตีเจตสิกดวงหนึ่งที่ทำกิจให้เกิดการ
งดเว้นจากกายทุจริต ๓  อย่าง  คือ  ๑. งดเว้นจากการฆ่าสัตว์    ๒. งดเว้นจากการ
ลักทรัพย์   ๓. งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
     สัมมาอาชีวะ  การเลี้ยงชีพชอบ   หมายถึง  วิรตีเจตสิกดวงหนึ่งที่ทำกิจให้เกิด
การงดเว้นจากมิจฉาชีพซึ่งเป็นไปทางกายหรือวาจาที่ทุจริต
    สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ    หมายถึง   วิริยเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตที่เป็น
ไปพร้อมกับสติปัฏฐาน และวิปัสสนาญาณ  เป็นความเพียรที่จะรู้ลักษณะของสภาพ
ธรรมตามความเป็นจริง
    สัมมาสติ การระลึกชอบ    หมายถึง   สติเจตสิกที่ระลึกที่ลักษณะของนามธรรม
หรือรูปธรรม  จนปัญญามีกำลังประจักษ์แจ้งสภาพธรรมไปตามลำดับ และเมื่อมัคคจิต
เกิดขึ้น  สัมมาสติก็ระลึกที่ลักษณะของนิพพาน
    สัมมาสมาธิ ความตั้งมั่นชอบ    หมายถึง   เอกัคคตาเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิต ใน
ขณะที่สติปัฏฐานและวิปัสสนาญาณเกิด    สัมมาสมาธิทำจิตและเจตสิกอื่นให้ตั้งมั่น
ในอารมณ์คือนามธรรมหรือรูปธรรมที่กำลังปรากฏ   เพื่อที่ปัญญาจะได้รู้ชัดลักษณะ
ของนามรูปนั้นๆ  และเมื่อมัคคจิตเกิดขึ้นสัมมาสมาธิก็ทำให้จิต และเจตสิกอื่นตั้งมั่น
ในอารมณ์คือนิพพาน
 การที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสได้ตามลำดับขั้นนั้น   ต้องดำเนินตามหนทาง
ที่ถูกต้อง คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ เท่านั้น      ซึ่งก็ต้องเริ่มตั้งแต่ในขั้นของการอบรม
ด้วยการฟังพระธรรม    ศึกษาพระธรรม   สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ 
 ในขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง  ขณะนั้นมรรคมีองค์ ๕  
กล่าวคือ  สัมมาทิฏฐิ   สัมมาสังกัปปะ  สัมมาวายามะ  สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ 
เกิดขึ้นพร้อมกันและถ้ามีวิรตีเจตสิกหนึ่งเจตสิกใดเกิดด้วย ก็เป็นมรรคมีองค์ ๖ เป็น
การอบรมมรรคอันเป็นโลกิยมรรค  ยังไม่ถึงขั้นที่เป็นโลกุตตระ    เพราะมรรคทั้ง ๘ 
องค์จะประชุมพร้อมกันในขณะที่มรรคจิต  ผลจิตเกิดขึ้นเท่านั้น   ซึ่งถ้าไม่เดินทาง
ตามที่ถูกต้องแล้ว ก็ย่อมไม่มีวันถึงขณะที่มรรคจิตและผลจิต จะเกิดได้เลยครับ
  แต่อย่างไรก็ดี สำหรับ อริยมรรค มีองค์ 8 นั้นเป็เรื่องที่ยาก และ ไกลมาก สำคัญ
ที่การอบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง เพื่อเป็นเหตุให้เกิด
ปัญญา  ปัญญานั้นเอง  จะปรุงแต่ง  และ  ปฏิบัติหน้าที่   ให้กุศลธรรมประการอื่นๆ
เจริญขึ้น และ ทำให้ถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ในที่สุด   อันมีปัญญาเป็นหัวหน้า
นำทางไปสู่หนทางที่ดับกิเลส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น